การต่อต้านการค้ามนุษย์คือพันธกิจสำคัญอย่างหนึ่งของ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อลดการค้ามนุษย์ ปกป้องสิทธิของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในประเทศไทย เสริมสร้างระบบการปกป้องคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้เข้มแข็งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนยุทธศาสตร์ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย
รายงานการวิจัยเรื่อง สถานการณ์และแนวโน้มการล่อลวงคนไทยไปแสวงหาประโยชน์เพื่อธุรกิจผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ใน 3 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดย มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมมือกับ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย และ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในการวิจัยเชิงคุณภาพผ่านการวิจัยเชิงเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่มกับผู้เสียหายจำนวน 20 คน ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการเดินทางไปทำงานที่เมืองปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชาและเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว และผู้ให้บริการช่วยเหลือผู้เสียหายจำนวน 20 คนในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดสระแก้ว
รายงานการวิจัยฉบับนี้นับเป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมตามหลักวิชาการฉบับแรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับรูปแบบการค้ามนุษย์โดยการบังคับและหลอกเหยื่อให้ทำงานเป็น ‘แสกมเมอร์ – Scammer’ หรือคอลเซ็นเตอร์ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษในประเทศเพื่อนบ้าน และมีเหยื่อคนไทยที่มีการศึกษาดี สามารถสื่อสารภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษได้ ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น
จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากประสบการณ์ของผู้เสียหายและผู้ให้บริการผู้เสียหายในครั้งนี้ สะท้อนถึงสถานการณ์และรูปแบบการค้ามนุษย์ในปัจจุบันที่มีความแตกต่างจากในอดีต เส้นทางการเดินทางของผู้เสียหาย วิธีการล่อลวงผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ปัจจัยในการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ตลอดจนกลไกการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในประเทศไทยและประเทศปลายทาง (สปป.ลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา) ที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องคุ้มครองผู้เสียหาย
จากข้อค้นพบในรายงานวิจัย ทีมวิจัยได้จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาแนวทางการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ได้แก่
- การให้ความรู้ แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
- การยกระดับองค์ความรู้ ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นรายวิชาหรือหลักสูตรการศึกษา
- การจัดตั้งคณะทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระดับจังหวัด โดยมีบทบาทเฉพาะและแยกขาดจากหน่วยงานอื่นๆ
- การจัดสรรงบประมาณ ที่เพียงพอและยืดหยุ่นเพื่อการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM)
- การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนกลไกการทำงานที่สามารถปฏิบัติงานได้จริงในพื้นที่และระหว่างประเทศ เพื่อการให้ปกป้องและคุ้มครองผู้เสียหาย
ปีที่เผยแพร่ : 2024